วันที่ 19 ตุลาคม 2568 นายวุฒิศักดิ์ เพชรมีศรี ผู้อำนวยการกองส่งเสริมโครงการพระราชดำริ การจัดการพื้นที่และวิศวกรรมเกษตร พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กองส่งเสริมโครงการพระราชดำริฯ ลงพื้นที่ติดตามการดำเนินงานโครงการส่งเสริมการเกษตรที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมในพื้นที่จังหวัดพิษณุโลก พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กลุ่มอารักขาพืช สำนักงานเกษตรจังหวัดพิษณุโลก ท่านเกษตรอำเภอบางกระทุ่มและเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบ พร้อมด้วยเกษตรกรในพื้นที่ ร่วมหารือเกี่ยวกับการดำเนินการจัดการเศษวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร การตรวจสอบพื้นที่เผาไหม้ (Burn Scar) และการใช้จุลินทรีย์ย่อยสลายตอซัง ในพื้นที่อำเภอบางกระทุ่ม จังหวัดพิษณุโลก ซึ่งเกษตรกรในพื้นที่ส่วนใหญ่จะประกอบอาชีพทำนา ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้
จุดที่ 1 ศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงบ้านบางกระน้อย หมู่ที่ 2 ตำบลนครป่าหมาก อำเภอบางกระทุ่ม จังหวัดพิษณุโลก เป็นกลุ่มเกษตรกรอัดฟางก้อนที่เข้าร่วมโครงการฟางทองคำ ของจังหวัดพิษณุโลก ซึ่งกลุ่มนี้จะมีการบริหารจัดการที่เป็นระบบและมีเครือข่ายที่เชื่อมโยงกันภายในกลุ่ม แต่ก็จะขึ้นอยู่กับศักยภาพของแต่ละพื้นที่ด้วย กลุ่มนี้จะประสบความสำเร็จพอสมควรในการบริหารจัดการเศษวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร แต่ก็จะมีปัญหา เช่น การเร่งรอบการทำนา ขาดตลาดรองรับ โรงเก็บฟางไม่ค่อยมี และขาดเงินทุนสำรอง ทางกลุ่มได้มีข้อเสนอแนะว่าควรมีการจัดตั้งโรงงานไฟฟ้าชีวมวลในจังหวัดพิษณุโลก อำเภอละ 1 จุด และขออนุมัติงบประมาณเพื่อจัดทำโกดังเพื่อจัดเก็บฟางไว้สำรองให้หน่วยงานภาครัฐไว้ใช้
จุดที่ 2 บ้านนายสมยศ โคกทอง และนายหนุ่ม แก้วกาหลง เกษตรกรหมู่ที่ 2 ตำบลเนินกุ่ม อำเภอบางกระทุ่ม จังหวัดพิษณุโลก ซึ่งจุดนี้เกษตรกรจะดำเนินการบริหารจัดการฟางอัดก้อนกันเอง ซึ่งไม่ได้เข้าร่วมกลุ่มฟางทองคำของจังหวัดพิษณุโลก มีการบริหารจัดการภายในของเกษตรกรอย่างเป็นระบบและมีเครือข่ายระหว่างกลุ่มเกษตรกรด้วยกัน และมีเกษตรกรที่มีรถอัดฟางในอำเภอบางกระทุ่ม ประมาณ 22 ราย จำนวน 15 โกดัง ซึ่งปัญหาของเกษตรกรกลุ่มนี้จะไม่ค่อยมีเท่าไหร่ แต่จะมีก็คือขาดแคลนแรงงานเท่านั้น
ในการนี้ ผู้อำนวยการกองส่งเสริมโครงการพระราชดำริฯ ได้ให้แนวทางการบริหารจัดการ สร้างความรู้ความเข้าใจแก่เกษตรกรเกี่ยวกับผลกระทบจากการเผาวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร และแนวทางการส่งเสริมการเกษตรให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพื่อให้เกิดความยั่งยืนและเป็นไปตามวัตถุประสงค์ของโครงการต่อไป
